บันทึกอนุทินครั้งที่ 3
Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood | |||
การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย |
อาจารย์ผู้สอน
อาจารย์ ตฤณ แจ่มถิ่น
วันที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558
เวลาเรียน 14:10-17:30 ( อังคาร บ่าย) กลุ่มเรียน 103
คณะศึกษาศาสตร์ โปรแกรมวิชาการศึกษาปฐมวัย
ชื่อ : นางสาวศิรดา สักบุตร (Sirada Sakbud) รหัสประจำตัว 5511200684
กิจกรรมในวันนี้
รูปแบบการจัดการศึกษา
- การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Eduction)
- การศึกษาแบบเรียนรวม (Integrated Education หรือ Mainstreaming )
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- คือ การศึกษาสำหรับทุกคน รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มต้นการศึกษา
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
การจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- เด็กที่มีความต้องการสามารถพิเศษทุกคนสามรถเรียนรู่้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้
อาจารย์กำลังบรรยายการเรียนการสอน |
ความหมายของการเรียนร่วมแบบพิเศษ
- คือ การจัดให้เด็กพิเศษได้เข้าไปอยู่ในระบบการศึกษาทั่วไป มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษได้ทำร่วมกับเด็กทั่วไป หรือใช้ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในแต่ละวัน หรือครูปฐมวัยหรือครูการศึกษาพิเศษร่วมมือ
การเรียนร่วมแบบแบ่งเวลา
- การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติบางเวลา
- เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ
- เป็นเด็กพิเศษที่มีคความพิการระดับปานกลาง ถึงระดับมากจึงไม่อาจเรียนรวมตามเวลาได้
การเรียนร่วมเต็มเวลา
- การจัดให้เด็กปกติเรียนในโรงเรียนตลอดจนเวลที่เด็กเรียน
- เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้ และบริหารนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
- มีเป้าหมายให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน
- เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลาย มนุษย์เราต้องการความรักความเอาใจใส่
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- เป็นการศึกษาสำหรับทุกคน รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้าการศึกษา และจัดให้เด็กมีความต้องการพิเศษของแต่ละบุคคล
Wilson,2007
- การจัดการเรียนการสอนที่ยึดปรัชญาของการอยู่รวมกัน การสอนที่ดีเป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน กิจกรรมทุกอย่างจะนำไปสู่การสอนที่ดี และยังเป็นการกำหนดทางเลือกที่หลากหลาย
สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- เป็นการจัดการศึกษาที่ให้เด็กเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ ตั้งแต่เริ่มการศึกษาและจัดให้มีตามความต้องการพิเศษของแต่ละบุคคลเด็กพิเศษทุกคนสามรถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสม เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพามาเข้าโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับไว้ และดำเนินการเรียนในลักษณะรวมกัน
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมของเด็กปฐมวัย
- เด็กปฐมวัยเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเรียนรู้ และสอนได้ เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีความจำกัดน้อยที่สุด
ครูไม่ควรวินิจฉัย
- การวินิจฉัย หมายถึง กาาตัดสินใจในการตัดสินใจ หรือในการดูอาการบางอย่าง จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
- จะเกิดผลเสียมากว่าผลดี
- ชื่อจะเปรียบเสมือนตราประทับตราติดตัวเด็กตลอดไป
- เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างครูเรียกฉายาเด็กยังไงเด็กก็จะจำแล้วเป็นอย่างที่ครูเรียก
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีความผิดปกติอย่างไร
- พ่อแม่ของเด็กพิเศษมักจะทราบ หรือรู้ปัญหาของลูกเขาอยู่แล้ว
- พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำถึงอาการของเด็ก
- ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นแง้วบ และเป็นความคาดหวัง
- ครูควรรรายงานบอกผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
- ครูช่วยให้ผู้ปกครอมีความหวัง
ครูทำอะไรบ้าง
- ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กว่าเด็กมีการพัฒนาการต่างๆ
- ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรพิเศษ ที่เหมาะสมใการประเมินวินิจฉัย
- สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
ไม่มีใครสังเกตได้ดีไปกว่าครู
ครูจะเห็นเด็กในช่วงสถานการณ์ต่างๆ เป็นเวลายาวนานกว่า
- ครูต้องจดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
การตรวจสอบ
- จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กได้ดีขึ้น
- บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
- ครูต้องไวต่อความรู้สึกและการตัดสินใจล่วงหน้า
- ประเมินในน้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆ
- พฤติกรรมของเด็กบางอย่างไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
- เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลาย มนุษย์เราต้องการความรักความเอาใจใส่
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- เป็นการศึกษาสำหรับทุกคน รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้าการศึกษา และจัดให้เด็กมีความต้องการพิเศษของแต่ละบุคคล
Wilson,2007
- การจัดการเรียนการสอนที่ยึดปรัชญาของการอยู่รวมกัน การสอนที่ดีเป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน กิจกรรมทุกอย่างจะนำไปสู่การสอนที่ดี และยังเป็นการกำหนดทางเลือกที่หลากหลาย
"Inclusive Education is Education for all,
It involves receiving people at the beginning of their education,with provision of additional services need by each individual"
สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- เป็นการจัดการศึกษาที่ให้เด็กเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ ตั้งแต่เริ่มการศึกษาและจัดให้มีตามความต้องการพิเศษของแต่ละบุคคลเด็กพิเศษทุกคนสามรถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสม เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพามาเข้าโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับไว้ และดำเนินการเรียนในลักษณะรวมกัน
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมของเด็กปฐมวัย
- เด็กปฐมวัยเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเรียนรู้ และสอนได้ เป็นการจัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่มีความจำกัดน้อยที่สุด
บทบาทของครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
- การวินิจฉัย หมายถึง กาาตัดสินใจในการตัดสินใจ หรือในการดูอาการบางอย่าง จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
- จะเกิดผลเสียมากว่าผลดี
- ชื่อจะเปรียบเสมือนตราประทับตราติดตัวเด็กตลอดไป
- เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างครูเรียกฉายาเด็กยังไงเด็กก็จะจำแล้วเป็นอย่างที่ครูเรียก
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีความผิดปกติอย่างไร
- พ่อแม่ของเด็กพิเศษมักจะทราบ หรือรู้ปัญหาของลูกเขาอยู่แล้ว
- พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำถึงอาการของเด็ก
- ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นแง้วบ และเป็นความคาดหวัง
- ครูควรรรายงานบอกผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
- ครูช่วยให้ผู้ปกครอมีความหวัง
ครูทำอะไรบ้าง
- ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กว่าเด็กมีการพัฒนาการต่างๆ
- ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรพิเศษ ที่เหมาะสมใการประเมินวินิจฉัย
- สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
ไม่มีใครสังเกตได้ดีไปกว่าครู
ครูจะเห็นเด็กในช่วงสถานการณ์ต่างๆ เป็นเวลายาวนานกว่า
- ครูต้องจดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
การตรวจสอบ
- จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กได้ดีขึ้น
- บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
- ครูต้องไวต่อความรู้สึกและการตัดสินใจล่วงหน้า
- ประเมินในน้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆ
- พฤติกรรมของเด็กบางอย่างไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
แบบการสอนของครู
การบันทึกการสังเกต
- การนับอย่าง่ายๆ
นับจำนวนครั้งของพฤติกรรม
กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
- การบันทึกที่ต่อเนื่อง
ให้รายละเอียดได้มากขึ้น
เขียนทุกอย่าง หรือกิจกรรมที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง
โดยครูไม่้ต้องเข้าไปแนะนำ หรือช่วยเหลือ
- การบันทึกที่ไม่ต่อเนื่อง
บันทึกลงบัตรเล็กๆ
เป็นการบันทึกสั้นๆของพฤติกรรมเด็กในแต่ละวัน
ตัวอย่างกิจกรรม การบันทึกเป็นคำๆ |
ตัวอย่างกิจกรรม การบันทึกเป็นคำๆ |
ตัวอย่าง การบันทึกกิจกรรมในช่วงเวลากลางแจ้ง |
ตัวอย่างการบันทึกกิจกรรมในช่วงเวลาเสรี |
การตัดสินใจ
- ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
- พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้นไปขัดขวางในความสามรถของเด็กหรือไม่
กิจกรรมวาดดอกชบา
ผลงาน จากการสเก็ตภาพ ดอกชบา |
แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม
การนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- ใช้ในการนำไปสังเกตพฤติกรรมเด็กเด็กพิเศษ เราได้รู้และเข้าใจถึงเด็กพิเศษและการเรียนรวมมากขึ้น ก็สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปใช้ในการประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
การประเมินตนเอง
- มาเรียน เข้าเรียนทันเวลา ช่วยเพื่อนๆจัดเก้าอี้ก่อนทำกิจกรรมเป็นรูปตัวยู ตั้งใจวาดรูปดอกชบาที่อาจารย์ให้วาดตาม แต่อาจจะมีคุยบ้างเป็นระยะๆ
การประเมินเพื่อน
- เพื่อนๆ มาเรียนกันทันเวลา และมีความสนใจในเนื้อหาการเรียนมีการคุยบ้างเป็นระยะๆ
การประเมินอาจารย์
- อาจารย์มีการเตรียมเนื้อหาการเรียนการสอนในรูปแบบของพาวเว่อร์พอยมาสอน และมาสอนตรงเวลาอาจารย์น่ารักมารอนักศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น